ด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกอย่างใกล้ตัว ทำให้วันนี้การจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ง่ายแค่คลิก แต่ทำอย่างไรจะประสบความสำเร็จ “ซุนวู” ปรมาจารย์ตำราพิชัยสงครามของจีนกล่าวไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง “ประชาชาติธุรกิจ” จึงรวบรวมข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ในการซื้อสินค้าออนไลน์ที่กำลังอินเทรนด์สุดสุดมาฝาก ทั้งมือใหม่และมือเก่าหัดขาย
เริ่มที่ข้อมูลและสารพัดสถิติจากเจ้าใหญ่ในตลาดซื้อขายออนไลน์ buy cheap fake watches
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ราคูเท็น ตลาดดอทคอม เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟนกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่อยู่ติดตัวผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ การท่องเว็บเดี๋ยวนี้จึงเข้ามาทางโมบายดีไวซ์มากขึ้น รวมไปถึงการช็อปปิ้งซื้อสินค้าออนไลน์ด้วย ถ้าเทียบไตรมาส 1 ปีนี้กับปีที่แล้วตลาดดอทคอมมียอดขายเพิ่มขึ้น 80% ในขณะที่ธุรกิจอื่นซบเซา ปริมาณการเข้าเว็บก็เพิ่มขึ้น 105% แถมกระแส “M-commerce” หรือการซื้อขายออนไลน์ผ่านทางโมบายก็มาแรงสุดสุด ยอดขายรวมของตลาดดอตคอมครึ่งหนึ่งมาจากช่องทางนี้ เรียกว่าก้าวกระโดดจากปีก่อนที่มีแค่ 11% เพิ่มมากสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือได้ว่าไทยกำลังก้าวเข้าสู่ M-commerce อย่างจริงจัง
ข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คือ หากเจาะดูข้อมูลเฉพาะ “M-commerce” ของเว็บไซต์นี้พบว่า ทราฟฟิกคนเข้าเว็บผ่านทางโมบายเพิ่มขึ้น 560% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 800%
แสดงว่าจำนวนคนเข้าเว็บไซต์มาก ๆ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญช่วยดันยอดขายให้พุ่งสูงอีกต่อไปแล้ว
ภาวุธ ย้ำว่า เทรนด์ของการซื้อขายออนไลน์ไปได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้โตเร็วยอดขายพุ่งต้องทำแคมเปญช่วยกระตุ้น อย่างหลาย ๆ ร้านค้าที่ทางตลาดดอตคอมเข้าไปช่วยทำแคมเปญ ปรากฏว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นสูงถึง 290-370% ภายใน 1 เดือน โดยแคมเปญที่โดนใจลูกค้ามากที่สุดคือ ซื้อปุ๊บแล้วได้บัตรของขวัญปั๊บ
“สำคัญคือจะทำอย่างไรให้เกิดการซื้อครั้งแรกแล้วเกิดความประทับใจ เพื่อให้เกิดการซื้อครั้งต่อ ๆ ไป ซึ่งมูลค่าการสั่งซื้อต่อครั้งเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,600 บาท แต่ถ้าทำแคมเปญให้ราคาต่อชิ้นไม่ถึง 1,000 บาทยอดขายจะพุ่งมาก”
ขณะที่ “21.30 น.” คือช่วงเวลาที่ดีในการส่งข้อมูลสื่อสารกับลูกค้าผ่านทางมือถือ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียหรือแอปพลิเคชั่น แชตต่าง ๆ เพื่อบอกกล่าวถึงการจัดแคมเปญหรือโปรโมชั่นต่าง ๆ รองลงไปคือเวลา 20.00 น. เรียกว่าส่งเข้าไปปุ๊บเห็นทราฟฟิกและยอดคลิกซื้อพุ่งทันตา เหตุเพราะเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ใช่เวลาออนไลน์อยู่ ส่วนเวลาที่ยอดคลิกเข้าเว็บและยอดขายสูงในช่วงกลางวันคือ 10.00 น. 11.00 น. และ 18.30 น.
ส่วนอายุของลูกค้าที่เข้ามาซื้อของผ่านทางโมบายมากที่สุดในช่วงที่เว็บจัดแคมเปญ Super Sale 46% อายุ 31-40 ปี 38% อายุ 22-30 ปี อีก 11% อายุ 41-50 ปี แม้จะไม่มากแต่เริ่มมีอัตราเติบโตดี ขณะที่อายุ 18-21 ปี วัยที่หลาย ๆ คนคือว่าเป็นกลุ่มที่ติดสมาร์ทโฟนกลับมียอดซื้อแค่ 3% ซึ่งน่าจะมาจากกำลังซื้อไม่มากเท่าวัยที่ทำงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงยังเป็นกลุ่มเสื้อผ้าและแฟชั่น 30% อุปกรณ์ไอทีโทรคมฯอย่างพาวเวอร์แบงก์ 16% อาหารและสุขภาพพวกบรรดาวิตามินต่าง ๆ 15% นาฬิกาและเครื่องประดับ 11% แต่พวกโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนมีอัตราการเติบโตของยอดขายที่ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากค่ายมือถืออัดโปรโมชั่นแรง ๆ พร้อมส่วนลดค่าบริการรายเดือน
ด้านเบอร์ 1 เว็บขายดีลส่วนลดในตลาดอย่าง Ensogo.com วรวุฒิ วาริการกรรมการผู้จัดการกล่าวตรงกันว่า ยอดเข้าเว็บผ่านทางโมบายเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยข้อมูลน่าสนใจคือ กว่า 60% ของลูกค้า Ensogo เป็นผู้หญิง และนิยมซื้อสินค้าคอนซูเมอร์ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีแรงผลักว่า “จะต้องสวย จะเก๋ ทำให้ตัวเองดูดีตลอดเวลา” ทุกอย่างที่ตอบโจทย์นี้จึงขายได้ดี และในจำนวนนี้ 80% จะอายุ 25-45 ปี อีก 20% จะเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นและกลุ่มอายุมากไปเลย มีรายได้ตั้งแต่ 18,000-40,000 บาท
ราคาดีลที่ขายดีเรียกว่า ยิ่งถูกยิ่งดี แต่ต้องได้ความคุ้มค่าด้วย เพราะหลายครั้งหั่นราคา Sale 80-90% ก็ยังขายได้ไม่กี่ดีล บางแบรนด์ลดราคาแค่ 20-30% ก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเกิดขึ้นกับแบรนด์ที่ไม่ค่อยทำโปรโมชั่นลดราคา
ถ้าวิเคราะห์โดยแบ่งเป็นหมวด ๆ ดีลกลุ่มร้านอาหาร ถ้าราคา 250-500 บาทจะขายดีที่สุด กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และแก็ดเจต ราคาราว ๆ 700 บาทจะขายดี ส่วนห้องพักในโรงแรมรีสอร์ต ราคา 1,599 จะขายดี
ฝั่งข้อมูลจากการสำรวจของ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) เมื่อปีที่แล้วพบว่า มีคนไทยเคยซื้อของผ่านโซเชียลมีเดีย 49.7% ซึ่งในจำนวนนี้ 55.9% เป็นผู้หญิง สาเหตุที่ซื้อ 76% เพราะสะดวก โปรโมชั่นดี 45.7% ส่วนสาเหตุที่ไม่ซื้อเพราะไม่ได้เห็นหรือจับต้องสินค้า กลัวถูกล้วงข้อมูลส่วนตัว กลัวคุณภาพสินค้าไม่ดี ไม่มีสินค้าที่ตัวเองสนใจ
สำหรับสินค้ายอดฮิตบนโลกออนไลน์ 59% ได้แก่ สินค้าแฟชั่นเสื้อผ้า/รองเท้า/กระเป๋า 34.1% เป็นสินค้าไอทีแก็ดเจต และ 30.5% เครื่องสำอาง ขณะที่วงเงินที่ซื้อสินค้าต่อครั้ง 40.7% อยู่ระหว่าง 501-1,000 บาท 33.7% อยู่ระหว่าง 1,001-5,000 บาท อีก 15% ใช้เงินต่ำกว่า 500 บาทต่อครั้ง
ถ้าแยกพฤติกรรมการซื้อตามอายุจะพบว่า อายุ 15-39 ปีจะซื้อของออนไลน์เฉลี่ย 501-1,000 บาท โดยสินค้าที่ซื้อมากที่สุดในช่วงอายุ 15-34 ปีจะนิยมซื้อแฟชั่นเสื้อผ้า/รองเท้า/กระเป๋า/เครื่องสำอาง ขณะที่อายุ 30-39 ปีจะนิยมซื้อคูปองส่วนลด/ดีล กลุ่มอายุ 50 ขึ้นไปจะนิยมซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์อาหารมากที่สุด
จากสารพัดข้อมูลที่รวบรวมมานี้ สโลแกน “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” แต่ราคาอย่าถึง 1,000 บาท คือขุมทองสำคัญของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในยุคนี้
ที่มา prachachat.net rolex fake watches for online sale